นักวิจัยในสหรัฐ คาดสหรัฐจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากเกือบ 2 แสนคนในอีก 4 เดือนข้างหน้า และจะมีผู้ติดเชื้ออีกกว่า 2 ล้าน ท่ามกลางการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์
นักวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตันของสหรัฐ คาดภายในเดือนตุลาคมนี้ สหรัฐจะมียอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ถึง 170,000 คน และมีผู้ติดเชื้ออีกกว่า 2 ล้านคน ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐ นักวิจัยกลุ่มนี้ย้ำด้วยว่าอัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในราวต้นเดือนกันยายน ทั้งนี้ หลายรัฐของสหรัฐไม่ว่าจะนิวเม็กซิโก ยูทาห์ และแอริโซนา ต่างมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างพากันกังวลว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก จากการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่เร็วเกินไป
อย่างไรก็ดี พลเรือโทเจอโรม อาดัมส์ เจ้ากรมแพทย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐมาถูกทางแล้วในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แม้การติดเชื้อในรัฐเท็กซัสจะเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันมา 3 วัน และยังเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ พลเรือโทอดัมส์ ยังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันทำตามข้อแนะนำด้านสาธารณสุขของทางการอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกัน ที่มหานครนิวยอร์ก ร้านค้าปลีกต่างๆ บนถนนฟิฟธ์ เอเวนิว ย่านชอปปิ้งชื่อดังของสหรัฐ เริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งหลังปิดให้บริการมา 3 เดือน
อย่างไรก็ดี ร้านค้าเหล่านี้จะบริการลูกค้าเพียงแค่ส่งของและรับสินค้าที่หน้าร้านเท่านั้น ยังไม่อนุญาตให้ลูกค้าเข้าไปเลือกซื้อสินค้าภายในร้านได้ มาตรการดังกล่าวก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 ที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 116,000 คน ติดเชื้ออีกกว่า 2,080,000 คน